AI Future Technology
AI เทคโนโลยีแห่งอนาคต นับวันคอมพิวเตอร์เทคโนโลยียิ่งกล่าวล้ำ สามารถเรียนรู้ ศึกษา พัฒนา จนในอนาคตไม่ไกลจากนี้ คอมพิวเตอร์สามารถที่จะเลียนแบบมนุษย์ได้ รู้ว่ามนุษย์เจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วจะต้องตัดสินใจอย่างไร แม้จะไม่ตรงนักก็ใกล้เคียง ที่เราเห็นได้ชัดเจนในยุคแรกๆ ของ AI (Artificial Intelligence) หรือภาษาไทยเราเรียกว่า "ปัญญาประดิษฐ์" ก็คือ ระบบอัตโนมัติในเครื่องจักรกลในโรงงาน ระบบการขับขี่อัตโนมัติ และถ้าวันนี้ Microsoft, Google, Facebook, Amazon หรือ Apple ต่างก็ให้ความสนใจนำปัญญาประดิษฐ์นี้ มาใช้ในกลยุทธ์การขายและการตลาดกัน สังเกตไหมว่า ถ้าเราคุยกับเพื่อนบนเฟซบุ๊คเรื่อง สีทาบ้าน ไม่นานโฆษณาสีทาบ้านยี่ห้อต่างๆ มันจะผุดขึ้นมาให้เห็นเลย มันรู้ได้ไง นี่แหละ AI ที่ทาง Facebook เขาใช้เก็บพฤติกรรมของผู้ใช้งาน แล้วนำเอาโฆษณาที่พวกเราสนใจมานำเสนอ เราได้เล่น เขาได้ค่าโฆษณา ล้ำไปอีก...
|
พอโลกเราเดินมาถึงยุคนี้ สิ่งที่ควรคำนึงถึงมากสี่สุดคือ ความปลอดภัย (Security) บางคนอาจจะคิดว่า จะกลัวอะไรกันนักหนา เครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค แท็ปเล็ต หรือ โทรศัพท์มือถือของเราก็อยู่กับเราตลอดเวลา ใครจะมาล้วงข้อมูลเราได้ แต่ในความเป็นจริง มันไม่เป็นไปเช่นนั้น เราเองนี่แหละได้ไปปล่อยข้อมูลส่วนตัวมากมายไว้ในโลกออนไลน์ และเป็นเอกสารในโลกแห่งความจริง เช่น คุณไปสมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ต บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กับผู้ให้บริการ คุณต้องให้สำเนาเอกสารบัตรประจำตัวของคุณประกอบคำขอด้วย แล้วมันมีปรากฏว่า เคยไปซื้อกล้วยแขก มันทอด ที่ใส่ในถุงกระดาษมา แล้วดันไปเจอสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนตัวเองหรือคนอื่นบ้างไหม เลข 13 หลักในบัตรมันสามารถนำไปสู่การทำธุรกรรมต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นว่า โดนเอาไปกู้เงินเป็นหนี้นับล้านบาทมาแล้ว
ที่โด่งดังช่วงปีที่ผ่านมาคือ มีข้อมูลบัตรลูกค้าของ บริษัทโทรศัพท์ความจริง ได้รั่วไหลออกไปสู่โลกออนไลน์นับหมื่นคน แล้วบริษัทที่ว่าก็แก้เกี่ยวว่าโดนแฮกเกอร์ล้วงข้อมูล ทั้งๆ ที่ในความจริงบริษัทไม่ปิดประตูห้องเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับ เปิดเผยอ้าซ่าให้คนอื่นเข้าไปดูมาตลอด
การที่เรากรอกข้อมูลเกี่ยวกับตนเองให้กับผู้ให้บริการต่างๆ ทางออนไลน์ โอกาสที่ข้อมูลนั้นจะรั่วไหลมีมากน้อยแตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าองค์กรนั้นเคร่งครัดขนาดไหน เอาแค่คุณไปสมัครบัตรเครดิตไว้สักใบ ไม่ทันไรเลย จะมีโบรกเกอร์ขายประกันภัยต่างๆ โทรเข้ามาชวนทำประกันภัย ผ่านบัตรเครดิตที่คุณเพิ่งสมัครทันที เขารู้ได้อย่างไร? |
ไม่ต้องสงสัยหรอก ข้อมูลของเราถูกขายไปยังบริษัทเหล่านี้ ธนาคาร สถาบันการเงิน บริษัทประกันภัย ล้วนมีความเกี่ยวข้องในธุรกิจเดียวกันเสมอ ไม่รอดแน่ เพียงแต่เราจะตั้งรับกับกระสือเหล่านี้อย่างไร ก็เท่านั้นเอง ทุกวันนี้ ไม่ว่าคุณจะแช็ทกับเพื่อนด้วยเสียง ด้วยข้อความก็ตาม ล้วนถูกตามเก็บข้อมูลด้วยแอพพลิเคชั่น และระบบปฏิบัติการต่างๆ ทั้งนั้น เราจะได้รับข่าวสารมาเป็นระยะๆ ว่า เครื่องมือถือ แท็ปเล็ต ยี่ห้อนั้นนี้ (โดยเฉพาะจากฝั่งจีน) มีการแอบส่งข้อมูลกลับไปยังผู้ผลิตด้วยวิธีการต่างๆ จนถูกแอนตี้มากมายจากลูกค้า มีทั้งที่ออกมายอมรับแล้วถอดโปรแกรมออกไป และที่ไม่ยอมรับก็มาก อ้างว่าเพราะแอพพลิเคชั่นอื่น หรือบ้างก็ออกมาอ้างว่า เพื่อพัฒนาต่อยอดให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น แล้วมันดีไหม?
เทคโนโลยีสมัยใหม่ เราเคยเป็นห่วงเป็นใยกับเด็กและเยาวชน แต่เมื่อโลกเปลี่ยน ตอนนี้เราห่วงผู้ใหญ่มากกว่า โดยเฉพาะบรรดา สว. (สูงวัย) ที่เพิ่งจะมาเริ่มสนุกกับแอพพลิเคชั่น Line, Facebook ตามหลังเด็กๆ นี่แหละ เพราะอะไรถึงห่วง คำตอบคือ ถูกหลอกง่ายและแชร์ไว ไม่ตรวจสอบข้อมูล เพราะมีความเชื่อว่า ตนอาบน้ำร้อนมาก่อน ผ่านโลกมามาก ไม่มีใครมาหลอกได้ ในขณะที่เด็กๆ เขาผ่านการอำ การหลอกมามากมาย จนวิเคราะห์ได้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ สว. จึงถูกหลอกได้ง่ายกว่า เมื่อเห็นเพื่อนแชร์มา (เพื่อนคนนี้ก็มีหน้าตาในสังคม มีเกียรติ มีตำแหน่งที่ดี คงไม่หลอกมั๊ง) เมื่อเพื่อนแชร์ "น้ำมะนาวใส่โซดาดื่มทุกเช้าแก้มะเร็ง" ก็เลยเชื่อกันใหญ่ แชร์กันไปเป็นไฟลามทุ่ง สังคมโลกออนไลน์ โลกเสมือน จึงเป็นอันตรายต่อพวก สว. มากกว่าเด็กๆ ครับ
ที่อันตรายยิ่งกว่านั้นคือ สว. เป็นพวกไม่จำอะไรที่ซับซ้อน เช่น รหัสผ่านยากๆ จึงมักจะใช้รหัสผ่านสำหรับล็อกอินแอพพลิเคชั่นต่างๆ ด้วยรหัสผ่านที่ไม่ควรเป็นรหัสผ่านเลย เช่น 123456, ABCDEF, DDMMYYYY, Telephone Number (หมายเลขโทรศัพท์, วันเดือนปีเกิด, ชื่อลูก, ชื่อหมา, ชื่อแมว) เวลาเครื่องโทรศัพท์พัง โทรศัพท์หาย ไปซื้อใหม่ก็ให้ร้านเขาลงแอพ กำหนดรหัสผ่านใหม่ ก็ไม่เคยจดใส่กระดาษเก็บไว้ ไม่เคยคิดมาเปลี่ยนรหัสใหม่อีกเลย พอเครื่องเจ๊งก็ทำอีหรอบเดิมอีก เราจึงเห็นเพื่อนออนไลน์พวกนี้มีชื่อบัญชีใหม่ๆ มาเรื่อยนั่นเอง พอเพื่อนถามทำไมเปลี่ยน/สร้างบัญชีใหม่ ก็จะตอบเอาเชิงว่า "อันเก่าโดนแฮค" จริงๆ แล้ว สมองของ สว. นั่นแหละที่โดนแฮคไปหมดแล้ว เอวัง...
นอกจากนี้ AI ยังเป็นเทคโนโลยีที่เป็นฝันร้ายของมนุษย์เงินเดือนหลายๆ อาชีพ ซึ่งมันมีส่วนคืบคลานเข้ามาแล้ว เช่น อาชีพขับรถ มนุษย์เรานั้นมีความอ่อนเพลีย เหนื่อย เมื่อยล้า ในการทำงาน ยิ่งเป็นการทำงานซ้ำๆ ยิ่งน่าเบื่อ ตอนนี้ มีการพัฒนารถบรรทุกขนส่งอัตโนมัติ ที่ขับไปได้เองไม่เหนื่อย เมื่อยล้า ตรงเวลาได้ดีกว่ามนุษย์ อีกงานก็เป็นพวกฝั่งอาชีพ การบัญชี การเงิน การลงทุน เดี๋ยวนี้มีการพัฒนาขึ้นมาก การวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุน จากสถิตินับล้านๆ ทั่วโลก ซึ่งผลการวิเคราะห์ทำได้แม่นยำกว่ามนุษย์ สามารถค้นหา บันทึกได้อัตโนมัติรวดเร็วกว่าคนอีก และที่โดนแย่งงานไปแน่นอนแล้วตอนนี้ คือ งานการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม ที่หุ่นยนต์มาทำงานแทนมนุษย์ได้ดี เร็ว แม่นยำกว่า โลกข้างหน้าเราต้องรับมือกันให้ดีนะครับ
Webmaster
19 August 2018
|