คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบ ประกาศรับซื้อไฟฟ้า โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) สำหรับภาคประชาชน ประเภทบ้านอยู่อาศัย พ.ศ. 2565 ที่ราคาหน่วยละ 2.20 บาท รับเป้าหมายปีละ 10 เมกะวัตต์ ระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 10 ปี สำหรับพื้นที่ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 5 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 5 เมกะวัตต์ การส่งเสริมให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าใช้เอง โดยการติดตั้งโซล่าร์เซลล์บนหลังคาบ้านที่อยู่อาศัย เพื่อบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า และสามารถนำส่วนที่เหลือมาขายเข้าระบบได้ โดยเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการลดการพึ่งพาการผลิตไฟฟ้า ด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ผันผวนและมีราคาสูง จากผลของภาวะวิกฤตการณ์ราคาพลังงานโลกที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ด้วย
ซึ่งผู้เขียนก็ประสบปัญหากับราคาค่าไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านนับวันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากอยู่ทำงานที่บ้านตอนกลางวันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ พัดลม โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอื่นๆ ที่จำเป็น ทำให้ใช้กระแสไฟฟ้ามากกว่า 150 หน่วยต่อเดือน ช่วงอากาศร้อนๆ เคยพีคไปถึง 400 หน่วยมาแล้ว ซึ่งอัตราค่าไฟฟ้าที่ทางการไฟฟ้าเรียกเก็บนั้นจะเป็นแบบขั้นบันได คือยิ่งใช้มากก็ยิ่งคิดราคาต่อหน่วยแพงขึ้นนั่นเอง เมื่อพิจารณาแล้วว่าคุ้มค่าก็เลยยื่นคำขอ และหาบรืษัทผู้รับเหมาติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อลดค่าไฟฟ้า ด้วยระบบขนาด 5 kW แบบออนกริด (ขนานกับระบบของการไฟฟ้า) [ รายละเอียดอ่านเพิ่มเติมตามนี้ ]
หลังการติดตั้งใช้งานเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2565 ก็ใช้งานเลยทันที (เฉพาะการใช้งานภายในบ้าน ยังไม่ปล่อยเข้าระบบของ กฟภ.) ช่วงนี้อยู่ระหว่างยื่นคำขอขายไฟฟ้าคืนต่อ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เมื่อทาง กกพ. มีมติเห็นชอบก็จะส่งคำขอที่ได้รับอนุญาตแล้วให้กับทางผู้จำหน่ายไฟฟ้า ในเขตที่ผู้ขออนุญาตติดตั้งโซลาร์เซลล์ ซึ่งก็คือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ. - PEA) ทำการพิจารณาเข้าดำเนินการต่อไป (สำหรับผู้ขอที่อยู่ในเขต กรุงเทพฯและปริมณฑล จะอยู่ในความรับผิดชอบของ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน. - MEA) เป็นผู้ดำเนินการต่อ)
ทาง กฟภ. อนุญาตให้ผู้เขียนขายไฟฟ้าได้เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 และให้เข้าไปทำสัญญาขายไฟฟ้าคืนที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 อุบลราชธานี ในวันที่ 13 ธันวาคม 2565 แล้วก็รอเรื่อยมาจนได้รับการติดต่อมาว่า ทีมวิศวกรจะเข้ามาตรวจสอบการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 เมื่อครบถ้วนถูกต้องก็จะทำการเปลี่ยน มิเตอร์วัดกระแสไฟฟ้า จากแบบอนาล็อก (จานหมุนเดิม) มาเป็นแบบดิจิตอล เพื่อวัดการซื้อ-ขายไฟฟ้าคืนได้ ดังภาพเปรียบเทียบข้างล่างนี้
ปกติ รอบบิลค่าไฟฟ้าที่บ้านผู้เขียนจะเป็นวันที่ 17 ของทุกเดือน แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นการขออนุญาตขายไฟฟ้าคืน กฟภ. รอบบิลค่าไฟฟ้าจะเป็นวันที่ 1 ของทุกเดือนแทน โดยจะเริ่มครบกำหนดเดือนแรกในวันที่ 1 เมษายน 2566 (เดือนแรกจะมีจำนวนมากหน่อยเพราะเกิน 30 วัน) จึงจะทราบผลว่า การติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านครั้งนี้ จะช่วยเราลดค่าไฟฟ้าได้มากน้อยเพียงใด จะคุ้มทุนเมื่อไหร่?
แต่จากการที่เริ่มปลดล็อค CT (อุปกรณ์กันย้อน) การจ่ายไฟฟ้าให้กับ กฟภ. ในช่วงบ่ายวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 วันแรกยังไม่เห็นผลว่า ผลิตได้มากน้อยจนเหลือขาย เพราะวันนั้นมีเพื่อนๆ นัดมาทานข้าวพูดคุยกันตั้งแต่เที่ยงวันยันค่ำ เปิดเครื่องปรับอากศมากหน่อยไม่เห็นผลอะไรเลย ผลิตไม่พอใช้นั่นแหละ
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ถือว่าเป็นวันแรกที่เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์แล้วเริ่มส่งออกไปให้ กฟภ. ซึ่งตามกราฟจะเห็นว่า เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 06.30 - 17.00 น. เลยทีเดียว ผลิตได้ทั้งสิ้น 23.50 kWh ใช้ไปเพียง 2.41 kWh เพราะอากาศเย็นมีลมหนาว ส่งออกไปได้เพียง 21.09 kWh ก็เป็นไปตามทฤษฎีการผลิตไฟฟ้าโดยแสงแดดในประเทศไทย
ประเทศไทยมีศักยภาพในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเฉพาะทางใต้และเหนือของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และบางบริเวณพื้นที่ในภาคกลาง ประมาณ 14.3% ของประเทศมีการรับพลังงานแสงอาทิตย์ได้ประมาณ 19-20 MJ/ตารางเมตร/วัน ในขณะที่ 50% ของประเทศได้รับประมาณ 18-19 MJ/ตารางเมตร/วัน ถ้าเป็นในแง่ของศักยภาพ ประเทศไทยยังล้าหลังกว่าประเทศสหรัฐอเมริกา แต่นำหน้าประเทศญี่ปุ่นอยู่ "
ถ้าว่ากันตามทฤษฎีเกี่ยวกับการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์แล้ว ในประเทศไทยจะให้แสงแดดเพื่อการผลิตไฟฟ้าได้ดีอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.2 ชั่วโมงต่อวัน (ค่าเฉลี่ยตามกราฟสีเขียว) จะได้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์เท่ากับ จำนวนกิโลวัตต์ (kW) คูณด้วย จำนวนชั่วโมง (hr)
บ้านผู้เขียนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ขนาด 5 kW ก็จะได้พลังงานเฉลี่ย 5*4.2=21 kWh (หน่วย) ถ้าวันไหนมีแสงแดดดี/มาก/น้อยต่างกัน ก็จะให้พลังงานไฟฟ้าลดหลั่นกันไป แต่เนื่องจากมีการสูญเสียพลังงานในระบบจากความร้อนและอื่นๆ ทำให้ดูกราฟที่ผลิตได้สูงสุดจริงๆ เพียงประมาณ 4.4 kW เท่านั้นเอง
ผ่านไป 3 วัน จากการดูที่กราฟการผลิตแล้วนำมาเฉลี่ยจะได้ประมาณไม่เกิน 20 หน่วย/วัน ระยะเวลา 1 เดือนก็น่าจะได้ประมาณ 600 หน่วย ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยที่บ้านผู้เขียนใช้ไฟฟ้าสูงสุด จึงมีแนวโน้มว่า จะได้เงินค่าขายกระแสไฟฟ้าคืนให้ กฟภ. บ้างเล็กน้อย เพราะว่า เราขายได้แค่หน่วยละ 2.20 บาท แต่เราซื้อมาใช้นั้นตกหน่วยละ 4.00 บาท ทำให้การขายของเราไม่ได้มากมายอะไรนัก การลงทุนติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์เป็นเงินนับแสนบาทเศษ จึงเป็นการชำระค่ากระแสไฟฟ้าล่วงหน้าไปก่อน และน่าจะทยอยคืนทุนในระยะประมาณ 5 ปีครึ่ง รอตรวจสอบอีกสักระยะก่อน แล้วจะนำมาอัพเดทให้ทราบกันต่อไป
คืนที่ผ่านมา มีเพื่อนบ้านในหมู่บ้านที่ทราบข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ กฟภ. มาตรวจเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าให้ ก็สงสัยว่า มีอะไรกันเหรอ? (ก็พี่มากัน 2 คันรถ 10 กว่าคน จนพี่ยามหมู่บ้านสงสัย) พอทราบว่า ที่บ้านติดโซลาร์เซลล์บนหลังเพื่อลดค่าไฟฟ้า และจำหน่ายส่วนเกินให้ทางการไฟฟ้า ก็เลยตามมาด้วยคำถามชุดใหญ่ว่า "การติดตั้ง Solar Rooftop คุ้มค่าจริงหรือ? ถ้าจริงเมื่อไหร่จะคืนทุน คิดอย่างไร?" ซึ่งตอบทันทีไม่ได้ รู้... แต่มันต้องมีตัวเลขชัดเจนหน่อย เลยกลับมาคิดคำนวณแยกแยะคำตอบ แล้วส่งไปให้ทางไลน์แล้ว เลยขอเอามาเล่าที่นี่ด้วย เพราะคุณผู้อ่านก็คงสงสัยเหมือนกันใช่ไหมล่ะ?
ค่าเริ่มต้นคือ ทำสัญญาขายไฟฟ้า 10 ปี จ่ายค่าติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ 5kW = 168,000 บาท"
จากการคำนวณง่ายๆ นี้ในระยะหนึ่งเดือนจึงสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ (ค่าไฟเฉลี่ย บวก ค่าขายไฟฟ้าคืน) 2,100+312 = 2,412 บาท ลงทุนค่าติดตั้งไปเป็นเงิน 168,000 บาท จะถึงจุดคุ้มทุนในเวลา 168,000 / 2,412 = 69.7 เดือน เท่ากับ 5 ปี 8 เดือน
ได้ใช้กระแสไฟฟ้าฟรีๆ ต่อไปอีก 4 ปี 4 เดือน จึงจะครบสัญญาที่ทำไว้ พร้อมรับเงินรายได้อีกเฉลี่ยเดือนละ 312 บาท อยู่นะ หลังครบสัญญา 10 ปีไปแล้ว จะยังไงต่อ? ไม่ทราบเหมือนกัน แล้วแต่นโยบายภาครัฐในภายภาคหน้า คุ้มไหม? คงเป็นคำตอบได้แล้วล่ะ👍👍👍🤗 (ตัวเลขที่เอามาคิดคำนวณในที่นี้ อิงตามการใช้งานจริงที่บ้านผู้เขียน นำมาหาค่าเฉลี่ยการใช้งานค่อนไปทางสูง ส่วนการผลิตค่อนไปทางต่ำแล้วนะครับ เพื่อให้ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด)
กราฟสวยๆ วันที่แดดดีอากาศสบายๆ ใช้แค่พัดลม 2 ตัว (1 มีนาคม 2566)
บทความเหล่านี้ คงจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านในการประหยัดค่ากระแสไฟฟ้า ด้วยการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน (Solar Rooftop) เพื่อใช้งานทดแทน และจำหน่ายคืนให้ทางการไฟฟ้านะครับ เท่าที่สอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่มาตรวจสอบระบบ และเปลี่ยนมิเตอร์ให้วันนั้น กฟภ. และ กฟน. ยังสามารถรองรับผู้ที่สนใจ สามารถยื่นขออนุญาตได้เพิ่มเติมอีกมากนะครับ รีบเลยครับ... อย่าช้า เดี๋ยวหมดโควต้าแล้วจะอดนะ (ขายคืนไม่ได้นะสิ)
พลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ | ติด Solar Rooftop 5kW | การประหยัดค่าไฟได้จริงหรือ | ขายไฟฟ้าคืนให้ กฟภ.
|
|
สนับสนุนให้ Easyhome อยู่รับใช้ท่านตลอดไป ด้วยการคลิกแบนเนอร์ไปเยี่ยมผู้สนับสนุนของเราด้วยครับ
|
ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่เว็บไซต์ Easyhome in Thailand เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)