การติดตั้ง LAN Card และการเชื่อมต่อ
เลือก LAN Card แบบไหนดี ?
ในปัจจุบันมีการผลิต LAN Card ออกมามากมายให้เลือกใช้ ก่อนอื่นคุณต้องดูก่อนว่าเครื่องที่ใช้มี Slot ISA หรือ
PCI ว่างอยู่ เพื่อจะได้เลือกการ์ดมาใช้ได้ถูกต้อง (เท่าที่สำรวจตลาด ISA จะเริ่มหายากแล้ว) คุณต้องการ ความเร็วในการเชื่อมต่อเท่าไหร่? ปัจจุบันมีการ์ดแบบ 10/100 มาให้ใช้ ถ้าคิดเผื่ออนาคตก็น่าเลือก แต่ผมเอาแบบประหยัดขอให้เป็นแบบ Plug & Play เพื่อให้ติดตั้งง่าย
เมื่อตกลงจะเลือกแบบ ISA หรือ PCI bus แล้วก็มาเลือกสายและขั้วต่อกัน การ์ดแลนส่วนใหญ่จะมีขั้วต่ออยู่ 3 แบบให้เลือกคือ ขั้วต่อแบบ BNC, RJ-45 และ AUI บางยี่ห้ออาจมีขั้วต่อเพียงชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือมี 2 แบบ อยู่ด้วยกัน คือ BNC และ RJ-45 ดังตัวอย่าง
|
แสดงขั้วต่อ LAN Card ชนิดที่มีขั้วต่อทั้งแบบ BNC และ RJ-45 และ AUI
|
คุณสมบัติของสายและขั้วต่อ
- ขั้วต่อแบบ BNC และสาย Coax
- ข้อดี ที่เห็นคือการเข้าสายง่ายด้วยเครื่องมือพื้นฐานธรรมดา ต่อเครื่องเข้าด้วยกันเป็นวงได้ มากกว่า 2 เครื่อง โดยไม่ต้องมี HUB ทำให้ประหยัดมากกว่า
- ข้อเสีย ถ้ามีสายในจุดใดจุดหนึ่งปลายเปิด จะทำให้ระบบล่มทั้งวงเลยทีเดียว ห้ามลืมปิดท้าย สายด้วย Terminator เด็ดขาด
- ขั้วต่อแบบ RJ-45 และสาย UTP
- ข้อดี ถ้าทำเป็นระบบใหญ่มีหลายเครื่องเชื่อมต่อกัน เมื่อสายใดสายหนึ่งปลายเปิด จะไม่มีผล กระทบต่อระบบเลย ไม่ต้องมีหัวต่อปิดท้าย (Terminator)
- ข้อเสีย การเข้าสายกับหัว RJ-45 ต้องมีคีมบีบเฉพาะ การจัดเรียงสายต้องทำตามข้อกำหนด เมื่อต้องการระบบใหญ่ต้องใช้อุปกรณ์กระจายสัญญาณ HUB ด้วยทำให้ระบบมีราคาสูงขึ้น
ถ้าจะต่อเพียง 2 เครื่องเข้าด้วยกันการเลือกใช้ขั้วต่อแบบ RJ-45 จะประหยัดกว่าแบบ BNC แต่ต้องใช้ เทคนิคนิดหน่อยเพิ่มเติม ถ้าคุณมี LAN Card ชนิดมีขั้วต่อทั้งสองแบบ ก็ให้เลือกเอาตามสะดวกของคุณครับ ว่าจะใช้แบบใด
- แบบ BNC ก็คลิกที่นี่ดูรายละเอียด
- แบบ RJ-45 ก็คลิกที่นี่ดูรายละเอียด
|
|
การ์ดขั้ว BNC, T-connector, Terminator
|
สาย Coaxial อิมพีแดนซ์ 50 โอห์มและขั้ว BNC
|
อุปกรณ์ที่ต้องใช้สำหรับขั้ว BNC
เมื่อเลือกใช้การ์ดแลนชนิดขั้วต่อ BNC แล้ว เราต้องเตรียมอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อดังต่อไปนี้ครับ
- สาย Coaxial RG-58 เป็นสายชนิดอิมพีแดนซ์ 50 โอห์ม ท่านที่เป็นนักวิทยุสมัครเล่นรู้จักกันดีครับ ความยาวเท่ากับระยะห่างระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งสองเครื่อง บวกระยะเผื่อกันสายตึงเกินไป อีกข้างละประมาณ 1 เมตร
ไม่ควรให้ยาวจนต้องม้วนเก็บนะครับ จะทำให้เกิดการเหนี่ยวนำในสาย มีสัญญาณรบกวนเกิดขึ้นได้ (อย่าใช้สายสัญญาณรับโทรทัศน์นะครับ เพราะสายอากาศโทรทัศน์ จะมีอิมพีแดนซ์ 75 โอห์ม)
- ขั้วต่อ BNC ควรเลือกเป็นแบบบัดกรีปลายสาย จะแน่นหนาและส่งถ่ายสัญญาณดีกว่าแบบบีบ ขั้วต่อ หรือขันน็อตครับ จำนวนเท่ากับสายคูณสอง
- T-connector ปกติจะมีแถมมากับการ์ดที่มีขั้วต่อแบบ BNC อยู่แล้ว ถ้าไม่มีก็ซื้อเพิ่มเท่ากับจำนวน การ์ด
- Terminator ตัวปิดปลายสายที่มีความต้านทาน 50 โอห์ม ถ้าหาไม่ได้ให้ใช้ขั้ว BNC แทน แล้วเอา ตัวต้านทานขนาด 50 โอห์ม
1/2 วัตต์ มาบัดกรีเข้ากับแกนกลางและขั้วกราวด์ทดแทนได้
ลักษณะการต่อเชื่อมระหว่าง T-connector และสาย Coax
การติดตั้งการ์ดก็เพียงอาศัยไขควงปลายแฉก 1 อัน เปิดฝาเครื่อง มองหา Slot ว่าง ๆ เพื่อเสียบการ์ด ลงไปให้แน่น ยึดด้วยสกรู ปิดฝาเครื่อง และนำสายสัญญาณมาต่อเชื่อมให้ครบวงจร
ลักษณะการต่อสายที่ถูกต้อง
- สำหรับการ์ดที่อยู่ในเครื่องปลายสายทั้งสองด้าน
ต้องต่อตัว Terminator ที่ปลายอีกด้านหนึ่งเสมอ อย่าปล่อยให้ปลายสายว่าง เพราะจะทำให้ระบบ ล่มทั้งวงเลยทีเดียว
ห้าม! ต่อสายตรงเข้ากับการ์ดแบบนี้เด็ดขาดครับ ต้องใช้ T-connector และตัว Terminator ไม่งั้นจะ ไม่สำเร็จแน่นอน
- สำหรับการ์ดที่อยู่ในเครื่องช่วงกลางสาย
ให้ใส่ขั้ว T-connector และต่อสายเข้าที่ปลายทั้งสองด้านได้เลยครับ บิดล็อคขั้ว BNC ให้แน่นอย่าให้ สายหลุด จุดต่อสายกับขั้ว BNC ต้องตรวจสอบให้ดี อย่าให้หลุดได้
การต่อเชื่อมด้วยสาย Coaxial และขั้วต่อแบบ BNC เรียกว่า การต่อแบบ BUS
เมื่อทุกอย่างตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ต่อไปก็เป็นการเซ็ทอัพเครื่องให้รู้จักกับอุปกรณ์ และการกำหนด ค่าต่าง ๆ กันได้เลย
|