โต๊ะทำงานของชาวไอทีมีเชื้อโรคชุมยิ่งกว่าส้วม จริงหรือไม่?

โต๊ะทำงานของชาวไอที และสำนักงานที่มีการใช้งานคอมพิวเตอร์นั้น พบว่ามีเชื้อโรคชุมยิ่งกว่าส้วม โดยเฉพาะแป้นพิมพ์ (Keyboard) และเมาส์ (Mouse) ของคอมพิวเตอร์ แม้แต่หน้าปัดหรือแป้นกด/หมุนเลขของโทรศัพท์ ได้ถูกพบว่า สกปรก โสโครกยิ่งกว่าที่นั่งบนโถส้วมเสียอีก กลายเป็นรังของเชื้อโรคอยู่กันอย่างยั้วเยี้ย ชุมกว่ากันถึง 400 เท่า เรื่องนี้เขียนมานานแล้วแต่ยังทันสมัยอยูนะ คือพฤติกรรมคนใช้งานยังไม่เปลี่ยนเลยไง...

Keyboard & Mouse คือแหล่งสะสมเชื้อโรคมากยิ่งกว่าฝาโถส้วมอีก เชื่อไหม?

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยอริโซนา แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ค้นพบเมื่อสำรวจค้นหาเชื้อโรคตามอุปกรณ์ที่กล่าวถึงเหล่านั้น ในสำนักงานต่างๆ ก็พบว่า มีเชื้อโรคบนเครื่องโทรศัพท์ ในเนื้อที่ 1 ตารางนิ้วมากถึง 25,127 ตัว บนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ 3,295 ตัว ที่เมาส์ 1,676 ตัว และแม้แต่ภายในสำนักงานเอง ก็ยังมีเชื้อโรคเฉลี่ยแล้วมากถึง 20,961 ตัว ยิ่งตามโต๊ะทำงานด้วยแล้ว ก็มีสภาพเหมือนกับเป็นโรงอาหารของพวกเชื้อโรคอย่างดี นักชีววิทยา นายชาร์ส์ เกอบา หัวหน้าทีมนักวิจัย กล่าวสรุปว่า ตามข้าวของเหล่านั้น พูดกันโดยถัวเฉลี่ยแล้ว จะมีเชื้อโรคมากกว่าที่มีอยู่ตามที่นั่งบนส้วมมากกว่ากันถึง 400 เท่า

เขาบอกต่อไปว่า "เมื่อมีพนักงานคนไหนเป็นหวัด ไปจับต้องถูกที่ใดในสำนักงาน ก็จะถ่ายเทเชื้อโรคเอาไว้ เชื้อโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่ สามารถจะอยู่บนพื้นที่ใดได้นานถึง 72 ชั่วโมง ดังนั้น สำนักงานก็เท่ากับเป็นโรงกกไข่ของเชื้อโรคดีๆ นี่เอง จึงควรจะได้มีการฆ่าเชื้อโรคตามสำนักงานต่างๆ อยู่เป็นประจำ"

เราไม่อาจจะรู้ได้ว่า คอมพิวเตอร์ ที่ใช้ร่วมกันหลายคน หลายมือ จะมีใครบ้างที่เอาเชื้อโรคมาปล่อยไว้บ้าง

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอเมริกัน เพิ่งออกเตือนไปเมื่อเดือนก่อน ให้ระวังเชื้อโรคแพร่กระจายในยามหน้าโรคหวัดระบาด ให้ปิดปากจมูกเมื่อเวลาไอจาม หมั่นล้างมือบ่อยๆ กับให้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดถูตามโต๊ะทำงาน รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้งานด้วย

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ปีที่ 55 ฉบับที่ 16855 3/15/2004

ทำความสะอาดกันหน่อยดีไหม?

แป้นพิมพ์ (Keyboard) มักจะเป็นศูนย์รวมของฝุ่นผง (นานาชนิด) และผม (หมายถึง เส้นผม นะไม่ใช่คนเขียนบทความ) ที่ปลิวเข้าไปรวมๆ อยู่ใต้ปุ่มต่างๆ ยิ่งนานวันเข้ามันก็ยิ่งเยอะ แน่นอนว่า เมื่อวันเวลาผ่านไปไอ้พวกฝุ่นผงและเศษผม มันจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของคีย์บอร์ด เช่น กดแป้นอักษรลงแล้วพิมพ์ไม่ได้ ต้องกดอย่างแรงถึงจะติด หรือบางทีก็กดทีเดียวแต่ได้ตัวอักษรซ้ำๆ กันมาเป็นสิบ ถ้าปล่อยไว้นานเกินไปคีย์บอร์ดก็มีโอกาสพังกลับโรงงานเก่า หรือใช้งานไม่ได้ไปซะเลย ยิ่งเป็นคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คนี่ราคามันยิ่งแพง เพราะเวลาเปลี่ยนบางทีต้องเปลี่ยนกันยกแผง ต้องใช้ทักษะมากในการเปิดเปลี่ยน ทำให้ราคาค่าอุปกรณ์และค่าแรงช่างเป็นหลักพันเลยเชียวนะ

คนที่ใช้คีย์บอร์ดสีดำๆ อาจจะไม่รู้สึกสักเท่าไหร่ แต่พอเป็นสีขาวหรือสีครีมนี่เข้าขั้นสยองเลยนะครับ

วิธีการง่ายๆ ที่จะทะนุถนอมให้ใช้งานได้นานๆ ปลอดโรคภัย คือ เราควรจะทำความสะอาดมันเป็นประจำ มีหลายคนถามเข้ามาบ่อยมาก เพราะมันค่อนข้างจะทำได้ลำบากถ้าเป็นพวก Notebook (แต่ก็ไม่ได้ยากเย็นนักหนา)

1. กำจัดฝุ่นก่อน ถ้าเป็นคีย์บอร์ดของเครื่องตั้งโต๊ะ (PC) ก็ถอดมันออกมา จับคว่ำหน้าลงแล้วก็เคาะเบาๆ หรือเขย่าไปมาสักเล็กน้อย จะได้ผลดีขึ้น ถ้ามีลมเป่าแรงๆ จากเครื่องเป่าลม (ฺBlower) หรือเครื่องดูดฝุ่น

2. ตามซอกเล็กซอกน้อย ใช้พู่กันที่มีหัวแปรงนุ่มๆ ปัดเอาเศษผงออกมา (อย่าปัดเข้านะ) ถ้าแป้นคีย์บอร์ดพีซีก็ตะแคงหรือเอียงคว่ำหน้าเล็กน้อย ถ้าเครื่องโน้ตบุ๊คก็กางจอออกตะแคงเครื่องด้านข้างเลย ปัด/เป่าออกให้หมด

3. ใช้ผ้าชื้นๆ เช็ดทำความสะอาด ถ้าสกปรกมากแนะนำให้ลงทุนซื้อพวกน้ำยาทำความสะอาดคอมพิวเตอร์มาใช้ จะได้แวววับเหมือนใหม่

4. ส่วนหน้าจอ (ที่มีไฟฟ้าสถิตย์เยอะจะดูดฝุ่นติดหนึบไว้มาก) แนะนำให้ใช้ผ้าที่เป็นเส้นใย Microfiber (หาได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ในแผนกรถยนต์) เช็ดโดยไม่ต้องชุบน้ำ (นอกจากตอนเอาไปซัก)

จากผลการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขสะท้อนว่า คีย์บอร์ดเป็นแหล่งเพาะแบคทีเรียที่น่ากลัว ที่อาจนำไปสู่โรคอาหารเป็นพิษ เช่น ท้องร่วง และสาเหตุสำคัญของเรื่องนี้มาจาก การกินอาหารบนโต๊ะทำงาน ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล่อง อาหารว่าง ขนม นม ชา กาแฟ รวมถึงการรักษาความสะอาดส่วนบุคคล เช่น การไม่ยอมล้างมือหลังเข้าห้องน้ำ เป็นต้น

แม้งานจะเร่งรีบเพียงใด ก็ควรแยกการทำงานออกจากการรับประทานอาหารคู่กันเถอะนะ

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า

" คน 1 ใน 10 ไม่เคยทำความสะอาดคีย์บอร์ด และ 20% ไม่เคยทำความสะอาดเมาส์ ขณะที่ 50% ไม่เคยทำความสะอาดคีย์บอร์ดเลยภายในระยะเวลา 1 เดือน "

นอกจากนั้น รูปแบบการทำงานสมัยใหม่ในหลายๆ บริษัท ที่พนักงานในหน่วยงานจะย้ายโต๊ะทำงานไปเรื่อยๆ ไม่แน่นอน (จากนโยบาย Work@Home ในบางวัน พนักงานไม่ต้องมาสำนักงาน เพื่อลดเวลาเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ) เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะเชื่อมต่อเข้ากับระบบกลาง จึงไม่มีความจำเป็นในการเก็บข้อมูลไว้ที่เครื่องใดเครื่องหนึ่ง พนักงานสามารถนั่งทำงานในโต๊ะที่ว่างในแต่ละวันได้ไม่ซ้ำกัน นั่นหมายความว่า พนักงานจะไม่มีทางรู้เลยว่า "มีใครใช้คีย์บอร์ดที่ตนใช้อยู่ขณะนี้มาบ้างแล้ว ใครเอาเชื้ออะไรมาแพร่กระจายไว้บนเมาส์และคีย์บอร์ดในวันก่อนหน้านี้"

ยิ่งห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ในมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา หรือโรงเรียน ที่ใช้ร่วมกันของนิสิต/นักศึกษา/นักเรียนจำนวนมากในแต่ละวัน ก็ย่อมจะมีเชื้อแบคทีเรียสารพัดมากกว่าในสถานที่ทำงานทั่วๆ ไปหลายเท่านัก เห็นทีจะต้องหมั่นทำความสะอาดกันให้มากยิ่งขึ้น

มีคนแนะนำอุปกรณ์ทำความสะอาดไว้น่าสนใจตามลิงก์นี้เลย