หลังจากที่เราสร้างกลุ่ม/หมวดหมู่เนื้อหาแล้ว ต่อไปเราก็จะเริ่มที่การสร้างบทความ/เนื้อหาต่างๆ ในเว็บไซต์ของเรา รวมทั้งการจัดการให้มีการแสดงผลในหน้าแรก และการสร้างเมนูเพื่อให้เชื่อมโยงหัวข้อต่างๆ เข้ากับเนื้อหาตามหมวดหมู่ที่กำหนดไว้ให้ถูกต้อง สวยงาม ค้นหาง่ายกันเลย

การสร้างเนื้อหา/บทความ (Article)

การสร้างเนื้อหา/บทความต่างๆ เราก็ทำเช่นเดียวกับการแก้ไขเนื้อหาบทความเดิมใน หัวข้อการแก้ไขเว็บไซต์หน้าแรก ที่ผ่านมา โดยการไปที่เมนู Content > Articles > Add New Article เพื่อสร้างเนื้อหาใหม่ หรือจะคลิกที่ New ตามรูปก็ได้เช่นกัน

เริ่มต้นสร้างเนื้อหาจากเมนู Content > Articles > Add New Article

จะพบกับหน้าต่างสำหรับการเพิ่มเนื้อหาใหม่ดังภาพล่าง เราจะใส่ชื่อเรื่อง/เนื้อหา/บทความในช่อง Title ตัวอย่างใช้ชื่อ "ยินดีต้อนรับ" ช่อง Alias ใช้คำว่า "welcome" (เราจะไม่ปล่อยว่างไว้ หรือใส่คำภาษาไทย เพราะส่วนนี้ระบบจะนำไปทำลิงก์ให้บทความ และถูกเก็บไปเป็นข้อมูลโดย bot ของ Search engine ต่างๆ) แล้วคลิกที่แท็ป Publishing เพื่อใส่คำอธิบายสั้นๆ ของเนื้อหา/บทความนี้ลงในช่อง More Description และใส่คำค้นหา, คำหลัก หรือ Keyword ลงในช่อง Meta Keywords ซึ่งจำเป็นมากเพราะจะทำให้ Search Engine Bot จากเว็บไซต์ค้นหาต่างๆ มาจัดเก็บไปทำฐานข้อมูลกันสืบค้น (อยากให้ Google รู้จักเว็บเราก็อย่าลืมใส่นะ) และอีก 2 ช่องที่ต้องใส่ ถ้าเราอยากใช้นามปากกาหรือชื่อผู้เขียนบทความลงไป ในช่อง Create by Alias และช่อง Author ถ้าเราไม่ใส่ ระบบจะนำเอาชื่อของยูสเซอร์ที่ล็อกอินเข้ามาเขียนบทความนี้ใส่แทน

ใส่รายละเอียดที่จำเป็นสำหรับเนื้อหา/บทความที่เว็บค้นหาข้อมูลจะเก็บไว้อ้างอิง

จากนั้นเราก็ไปที่แท็ป Content เพื่อใส่เนื้อหารายละเอียดลงไปตามที่ต้องการ ทั้งหัวข้อหลัก การโปรยนำบทความ และใส่รายละเอียดต่างๆ (เคล็ดไม่ลับ Paragraph หรือย่อหน้าแรก ควรโปรยเนื้อหา/บทความให้ตรงกับ Meta Description เพื่อให้มีผลกับการค้นหาใน Search engine ได้รู้จักและจดจำ นี่คือการทำ SEO ให้เว็บไซต์ค้นหาต่างๆ รู้จักและจดจำเรา) ที่ Status ระบบจะกำหนดให้เป็น Published เพิ่อแสดงผล เสร็จแล้วทำการบันทึกด้วยการคลิกที่ปุ่ม Save เพื่อการแก้ไขต่อไป หรือ Save & Close เมื่อการเขียนเนื้อหา/บทความเสร็จสิ้น

ทำการบันทึกเนื้อหา/บทความเพื่อดูผลในหน้าแรก

เราสามารถดูผลลัพธ์ของบทความนี้ในหน้าแรกได้หลังจากการบันทึก แต่เอ๊ะ! ใยไม่มีการแสดงผลเลยล่ะ เครียดล่ะ เราทำอะไรผิดนะ กลับไปดูที่หน้าแก้ไขบทความกันเลย แล้วหาดูว่า...

เราทำผิดอะไรกัน ใยหน้านี้จึงว่างเปล่าล่ะ!

อย่าเพิ่งตกใจ เราคงลืมอะไรสักอย่างแน่เลย กลับไปดูที่หน้าจัดการเนื้อหากันหน่อย เห็นหรือยังครับ ตรงส่วนหัวข้อ Featured (การกำหนดให้แสดงผลในหน้าแรก) ยังอยู่ที่ No สีแดง เราต้องคลิกที่ปุ่ม Yes ให้เป็นสีเขียว ทำการบันทึกแล้วกลับไปดูผลกัน

เปลี่ยน Featured จาก No ให้เป็น Yes แล้วบันทึกผล

กลับไปที่เว็บไซต์หน้าแรก คลิกที่ปุ่ม Refresh หรือจะกดปุ่ม Ctrl + R ที่แป้นคีย์บอร์ด เพื่อให้โหลดหน้านี้อีกครั้ง โป๊ะเชะ! มันมาแล้วบทความของเรา วงกลมสีเขียวคือชื่อบทความในช่อง Title ในกรอบแดงคือเนื้อหารายละเอียดที่เราพิมพ์ลงในช่อง Content ซึ่งเรายังสามารถปรับแต่งใส่สีสัน ทำตัวหนา ตัวเอียง ทำหัวเรื่อง และใส่ภาพประกอบลงไปได้อีก

การแสดงผลในหน้าแรกเมื่อกำหนดบทความให้ Featured เป็น Yes

จากภาพประกอบในการป้อนเนื้อหาลงในบทความจะเห็นว่า มีเครื่องมือปรับเปลี่ยนแก้ไขบทความเป็น TinyMCE ที่ติดมากับจูมลามาตรฐานอยู่ (ซึ่งผู้เขียนเห็นว่ายังไม่สะดวกและตอบโจทย์การทำงานมากนัก) เราได้ลง Plugins ของ Editor ที่ชื่อว่า JCE Editor ไว้แล้วซึ่งใช้งานได้ง่ายกว่า ภาพประกอบข้างล่างคือการเปรียบเทียบระหว่างเอดิเตอร์ทั้งสอง

บนคือ TiinyMCE Editor ล่างคือ JCE Editor

ถ้าเราต้องการให้ JCE Editor เป็นเอดิเตอร์หลักในการใช้งานในทุกครั้งที่มีการเขียนบทความ หรือแก้ไขบทความเลย ก็สามารถกำหนดได้ที่ Global Configuration โดยการคลิกที่เมนู Site > Global Configuration เพื่อเข้าไปแก้ไข ซึ่งในส่วนนี้มีสิ่งสำคัญที่ควรแก้ไขให้เว็บไซต์เราทำงานได้ดีขึ้นดังนี้

การตั้งค่ามาตรฐานให้เว็บไซต์ด้วย Global Configuration

ที่หน้าต่าง Configuration จะมีแท็ปที่ควรแก้ไขอยู่ 2 แท็ปคือ Site และ Server เราจะเริ่มต้นที่แท็ป Site ก่อน จะเห็นว่ามี Site Name คือชื่อเว็บไซต์ของเรา อยากเปลี่ยนใหม่ก็ทำได้ให้เหมาะสมกับเนื้อหา (ตอนติดตั้งครั้งแรก เราอาจจะใส่มั่วๆ มาก่อนไง) ดูตรง Default Editor เราสามารถกำหนดให้ Editor ที่ติดตั้งไว้แล้วตัวใดเป็นค่ามาตรฐานก็ได้ ในที่นี่เราเลือก JCE Editor ด้านขวาในกรอบ SEO Setting แนะนำให้ตั้งค่าตามในรูป เพื่อให้บรรดาเว็บไซต์ค้นหาอย่าง Google ค้นหาได้ง่ายนะครับ

การตั้งค่ามาตรฐานให้ Editor และการทำ SEO (search Engine Optimization)

ยังไม่หมดเลื่อนลงมาอีกนิดหนึ่งเพื่อเพิ่มคำอธิบายในส่วน Site Meta Descripton เช่น เว็บไซต์นี้ของใคร เกี่ยวกับอะไร เขียนเป็นประโยคบอกเล่าสัก 1 ย่อหน้า ต่อไปก็ใส่คำค้นหา หรือ Keyword ที่คาดว่าผู้ชมจะค้นหาเว็บไซต์เราในช่อง Site Meta Keywords ด้วยคำภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้ แต่ละคำคั่นด้วยเครื่องหมายคอมม่า (,) ใส่ได้ตามต้องการมากกว่า 100 คำ (ถ้าคิดออกนะ) เสร็จแล้วก็กดปุ่มบันทึก (Save) เพื่อแก้ไขแท็ปต่อไป

การใส่คำอธิบายเว็บไซต์และคำค้นหา (Keywords)

แท็ปต่อไปคือ Server ที่จำเป็นต้องแก้ไขมี 2 ที่คือ Gzip Page Compression ให้เป็น Yes เพื่อส่งข้อมูลเว็บให้ผู้ชมอย่างรวดเร็ว และแก้ไขที่ตั้งเครื่องแม่ข่าย (Server) ให้อยู่ในเขตโซนเวลาที่ถูกต้องที่ Location Setting > Website Time Zone ของเราก็เลือกเป็น Asia/Bangkok เพื่อให้การบันทึกวัน/เวลาในบทความที่เขียนขึ้นใหม่ หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้วันเวลาที่ถูกต้องนั่นเอง เสร็จแล้วก็คลิก Save & Close

การตั้งค่า Time Zone ให้ได้วัน/เวลาที่ถูกต้อง

จากนั้นเราก็ไปจัดการเพิ่มเนื้อหาบทความอีกสัก 3-4 เรื่อง เช่น เกี่ยวกับเว็บไซต์ของเรา มีจุดประสงค์ อย่างไร ใครเป็นคนทำ ติดต่อได้อย่างไร บทความที่เป็นเนื้อหาความรู้ด้านต่างๆ ตามที่ต้องการ เพื่อจะได้ใช้ในการทำเมนูเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาเหล่านี้กันต่อไป

การสร้างเมนูเชื่อมโยงเนื้อหา