ข้อมูล (Data) ของผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ นับเป็นสิ่งมีค่าที่ต้องมีการจัดเก็บสำรองข้อมูล ป้องกันความเสียหายจากเหตุต่างๆ อยู่อย่างสม่ำเสมอ เช่น งานด้านเอกสารสำคัญไม่ว่าจะเป็น เอกสารการติดต่องาน งานวิจัย วิทยานิพนธ์ บทความ และอื่นๆ รวมทั้ง รูปภาพ คลิปวีดิโอ หรือซอฟท์แวร์ที่ใช้งานต่างๆ ไว้ในที่ปลอดภัย เรียกใช้ในภายหลังได้สะดวก ยิ่งเป็นยุคของการสื่อสารออนไลน์ โอกาสที่ข้อมูลสำคัญจะเสียหายจากการที่อุปกรณ์จัดเก็บเสียหาย โดนไวรัส หรือสปายแวร์ มัลแวร์ต่างๆ ทำลาย ก็มีมากยิ่งขึ้น
ผู้เขียนเคยประสบปัญหาจากการจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ต่างๆ แล้วเสียหายก็บ่อย ไม่ว่าจะเก็บใน External Hard Drive ที่พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก แต่ก็เสี่ยงกับการกระทบกระแทกจนตัวเก็บอุปกรณ์เสียหายได้ หรือโดนกระแสไฟกระชาก ไฟฟ้าดับในระหว่างการทำการถ่ายโอนข้อมูล จนอุปกรณ์พังคามือก็หลายครั้ง เคยเก็บในแผ่น CD/DVD ที่คิดว่ามันเก็บได้นาน แต่พอผ่านระยะไปสัก 4-5 ปีเจอแผ่นลอกครับ (โดยเฉพาะกับแผ่นราคาถูกๆ) ข้อมูลสูญหายเกลี้ยง และปัจจุบันเครื่องอ่านแผ่นพวกนี้ก็ไม่ใช่อุปกรณ์มาตรฐานในเครื่องคอมพิวเตอร์อีกแล้ว ในปัจจุบันมีบริการก้อนเมฆ (Cloud) ของผู้ให้บริการมากมายในการฝากไฟล์ เช่น Dropbox, Google Drive, OneDrive และอื่นๆ อีกมากมาย ก็มีทั้งที่ให้ฟรีและต้องจ่ายเงินเพิ่ม หากข้อมูลของเรามีมากกว่าที่ให้ใช้ฟรีไว้ ซึ่งมีทั้งจ่ายรายเดือน/รายปี ตามกำลังทรัพย์ สามารถใช้งานได้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา ก็นับว่าสะดวกมากกว่าแต่ก่อน
ก้อนเมฆ (Cloud) ดี แต่ก็ไม่ตอบโจทย์ผมอยู่ดี เพราะข้อมูลบางอย่างมันมีขนาดใหญ่ เป็นความลับ หรือเป็นสีเทาๆ ที่ผู้ให้บริการก้อนเมฆเขาไม่อนุญาตให้นำไปเก็บ จึงต้องมองหาอุปกรณ์อื่นๆ มาทดแทน การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Center) เป็นทางเลือกที่ดี แต่ราคามันก็สูงเกินเอื้อมไปหน่อย (เราไม่ใช่บริษัทขนาดใหญ่มีธุรกิจร้อยล้าน พันล้าน ที่จะต้องลงทุนขนาดนั้น) การเลือกใช้อุปกรณ์ประเภท NAS (Network-Attached Storage) จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากครับ
Network-Attached Storage (NAS) เป็นการจัดเก็บข้อมูลดิจิตอลรูปแบบใหม่ โดยผ่านทาง Network หรือ Internet เป็นวิธีที่ง่ายในการเพิ่มอุปกรณ์เก็บข้อมูลให้กับเน็ตเวิร์กของที่บ้าน หรือองค์กร โดยที่ NAS ไม่ได้มีความสามารถในการประมวลผลพิเศษ แต่ว่า NAS เป็นทางเลือกที่นอกเหนือจากการใช้ไฟล์เซิร์ฟเวอร์ โดยที่มีราคาถูก และง่ายต่อการใช้มากกว่า ทั้งนี้นอกเหนือจากราคาของระบบที่ถูกกว่าการใช้ไฟล์เซิร์ฟเวอร์แล้ว ระบบ NAS นี้ยังสามารถติดตั้ง ใช้งาน และดูแลได้ง่าย โดยใช้ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ผ่านโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ ผู้ดูแลระบบเน็ตเวิร์กสามารถตรวจสอบ และดูแล NAS ได้โดยใช้ซอฟต์แวร์จัดการที่ทำงานบนเว็บบราวเซอร์ได้ทันที
ซึ่ง NAS นั้น เปรียบเสมือนกับว่าเป็นระบบไฟล์เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ มีการเข้าถึงทำงานแบบไฟล์บนเซิร์ฟเวอร์โดยไคลเอ็นต์ หรือเวิร์กสเตชันผ่านทางเน็ตเวิร์กโพรโตคอล เช่น TCP/IP และผ่านทางแอพพลิเคชัน เช่น NFS (Network File System) หรือ CIFS (Common Internet File System) ทำให้ไคลเอ็นต์ที่เชื่อมต่ออยู่บนระบบเน็ตเวิร์ก สามารถแลกเปลี่ยนไฟล์กันได้ และการเข้าถึงไฟล์ข้อมูลนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการเชื่อมต่อซึ่งมีอยู่ภายในไคลเอ็นต์อยู่แล้ว โดยโครงสร้างของ NAS นั้นเน้นการให้บริการด้านไฟล์ ดังนั้นจึงช่วยให้การจัดการเข้าถึงไฟล์สามารถทำได้ด้วยความรวดเร็ว ทำงานบนเว็บบราวเซอร์ได้ทันที
NAS จะส่งข้อมูลในปริมาณที่ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับ SAN (Storage Area Network) และต้องใช้ช่วงเวลาน้อยกว่าอีกด้วย โดย LAN / WAN จะมีการบังคับแพ็กเก็ตขนาดใหญ่ให้แตกออกเป็นชิ้นย่อยในการส่ง ดังนั้นจำนวนแพ็กเก็ตยิ่งมากเท่าไรก็จะใช้ทรัพยากรเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือทำให้ซีพียูทำงานหนักขึ้นนั่นเอง จึงไม่เหมาะที่จะไว้รับส่งไฟล์ขนาดใหญ่มากๆ นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถตั้งโปรแกรมให้ NAS แบ็กอัพไดเรกทอรีหรือฮาร์ดดิสก์ของไคลเอ็นต์ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีอย่างหนึ่งที่ช่วยในการสำรองข้อมูล ที่ลดความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูลให้น้อยลง
นอกจากนั้นตัว NAS เองยังสามารถ Backup and Synchronize กับข้อมูลที่เก็บอยู่บนคลาวด์เจ้าดังต่างๆ ทำให้มีการสำรองข้อมูลให้ปลอดภัยเป็น 2 ชั้นได้อีกด้วย
NAS มีให้เลือกใช้มากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไป เลือกใช้งานได้ตามความชอบ งบประมาณที่มี และขนาดของปริมาณการจัดเก็บใช้งานของแต่ละคน สามารถขยายพื้นที่ปริมาณการจัดเก็บได้เท่าไหร่ มีซีพียู หน่วยความจำเพียงพอต่อความต้องการไหม ที่นิยมในบ้านเราก็มีหลายยี่ห้อ แต่ที่ถูกกล่าวถึงบ่อยๆ ก็มี QNAP และ Synology ที่ผมเลือกใช้คือ Synology เพราะมีอะไรหลายๆ อย่างตอบโจทย์ผมมากที่สุดครับ โดยเฉพาะซอฟท์แวร์และแอพพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดไปติดตั้งในอุปกรณ์พวกโมบายล์ของผม ซึ่งมีทั้ง Windows PC, Linux, MAC OS, iOS, Android เรียกว่ามี "ร้านค้า (Online App Store)" ให้บริการครบครันและครบรอบด้านด้วย และที่สำคัญอัพเดทเพื่อความปลอดภัยบ่อยดีมากๆ
|
|
สนับสนุนให้ Easyhome อยู่รับใช้ท่านตลอดไป ด้วยการคลิกแบนเนอร์ไปเยี่ยมผู้สนับสนุนของเราด้วยครับ
|
ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่เว็บไซต์ Easyhome in Thailand เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)