มาแปลกไหมที่หันมาสนใจรีวิวสินค้า? ไม่หรอกครับ รีวิวเพราะประทับใจเมื่อนำมาใช้งานที่บ้าน ทุ่นแรงไปเยอะจริงๆ เป็นบ้านชั้นเดียวหลังเล็กๆ อยู่กัน 2 คนตายายไม่มีคนรับใช้ ต้องเช็ดต้องถูกันสัปดาห์ละครั้งก็แทบจะหมดเรี่ยวแรงแล้ว เห็นลูกๆ เขาใช้งานกันที่บ้านในกรุงเทพฯ พักหนึ่ง แล่วเจ้าหุ่นยนต์ตัวนั้นก็ไปคลุกฝุ่นอยู่ที่ใต้บันได ไม่ออกมาทำงานอีกเลย ถามลูกแล้วเขาก็บอกว่า ไม่ประทับใจกับการทำงาน เสียงดัง ดูดฝุ่นไม่หมด วิ่งมั่วๆ ไปทั่วเลยไม่ใช้งานแล้ว แต่เรามันอยากใช้เพื่อทุ่นแรง ก็เลยต้องศึกษาเรื่อง "หุ่นยนต์ดูดฝุ่น" ว่ามันมีหลักการทำงานอย่างไร แบบไหนใช้งานได้จริง ก็พบว่า... หุ่นยนต์ทุกตัวมันดูดฝุ่นได้ แต่จะมากน้อย หรือสะอาดเพียงไรนั้นขึ้นอยู่กับ "ระดับราคา" และ "คุณสมบัติภายในเครื่อง" ดังนี้
เปรียบเทียบหุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคาถูก - ราคาแพง
ที่ผมเลือกคือตัวระดับราคาปานกลาง ด้วยเหตุผลคือ ราคาพอรับได้ ความสามารถเหมาะสมกับสถานที่ (บ้านชั้นเดียว พื้นที่ใช้สอยประมาณ 55 ตารางเมตร) เป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดยี่ห้อ Xiaomi รุ่น Mi Robot Vacuum-Mop 1C เป็นรุ่นราคาประหยัดที่ตัดระบบนำทางด้วย Laser ออกไปแล้ว ใช้กล้องเหนือเครื่องในการทำแผนที่แทน ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ยังคงอยู่ครบถ้วนแบบรุ่นใหญ่ (Pro) แถมยังอัพเกรดขึ้นจากรุ่นก่อนๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น Mi Home การสำรวจและสร้างแผนที่ได้ 1 แผ่น ทำการดูดฝุ่นด้วยแรงดูดสูงถึง 2500 Pa ความสามารถในการปีนพื้นที่ต่างระดับสูง 2 cm มีถังเก็บฝุ่นขนาด 600 cc มีชุดถูพื้นผ้าใยไมโครไฟเบอร์พร้อมถังน้ำในตัวขนาด 200 cc สามารถถูพื้นแบบเปียกและปรับปริมาณน้ำได้ เรียกได้ว่าคุ้มค่าตัวสุดๆ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ (ราคาที่ได้มาคือ 5,151 บาท รวมค่าส่งถึงบ้าน ราคาทั่วไปในตลาดคือ 5,000 - 10,000 บาท แล้วแต่ช่วงโปรโมชั่นจากผู้ขาย ในตลาดพบว่ามีตัวถูกของ Mi อีกรุ่นนะครับเป็นรุ่น Essensial หรือ รุ่น G1 ที่ตัดฟังก์ชั่นบันทึกแผนที่ออกไป ต้องทำแผ่นที่ใหม่ทุกครั้ง แรงดูดน้อยกว่า)
อุปกรณ์ที่ได้มาภายในกล่องบรรจุ ประกอบด้วย
หงายตัวเครื่องขึ้นมาสำรวจ จะพบกับอุปกรณ์ดังนี้
พื้นที่ว่างบริเวณหมายเลข 1 และ 5 จะเป็นที่ติดตั้งถังน้ำและผ้าม็อบถูพื้นทำความสะอาด ความสูงของตัวหุ่นยนต์ 8.2 เซนติเมตร จึงสามารถลอดเข้าใต้โต๊ะ โซฟา เตียงที่มีความสูงจากพื้น 9 เซนติเมตรขึ้นไปได้
เมื่อดูด้านข้างด้านหลังจะพบช่องหมายเลข 1 เป็นช่องระบายลมจากการดูดฝุ่น และหมายเลข 2 จะเป็นแทงค์บรรจุน้ำขนาด 200 cc และผ้าใยไมโครไฟเบอร์
ด้านบนตัวเครื่องจะมีปุ่มควบคุม 2 ปุ่ม คือ หมายเลข 1 ปุ่มเปิดเครื่องให้ทำความสะอาด หมายเลข 2 ปุ่ม Home สำหรับกลับไปแท่นชาร์ท ส่วนหมายเลข 3 คือ กล้องมุมกว้าง ที่จะถ่ายภาพเพดานด้านบนเพื่อสร้างแผนที่ห้อง ดังนั้น การทำงานของหุ่นยนต์จะต้องทำงานในที่ที่มีแสงสว่างพอสมควรนะครับ
หลังจากได้รับเครื่องมาก็ทำตามที่คู่มือบอกไว้ (เครื่องที่ผมได้มาเป็นภาษาจีน) อ่านไม่ออกไม่เข้าใจ ดูรูปเอา ประกอบกับการดูรีวิวการใช้งานจากช่อง Youtube ต่างๆ ทั้งของไทยและเทศ ทำการประกอบใบแปรงปัดฝุ่นเข้ากับตัวเครื่อง ลอกพลาสติกใสที่หุ้มส่วนต่างๆ ออกเพื่อให้กล้องและเซนเซอร์ต่างๆ ทำงานได้ถูกต้อง แกะเอาพลาสติกที่สอดอยู่ระหว่างกันชนหน้าทั้งสองด้านออกดังภาพล่างนี้
หาสถานที่ติดตั้งแท่นชาร์ทให้เหมาะสม ใกล้กับปลั๊กไฟฟ้า (โดยไม่ต้องต่อพ่วงสาย) มีผนังด้านหลังเพื่อไม่ให้แท่นชาร์ทเคลื่อนที่ในเวลาหุ่นยนต์วิ่งเข้ามายังที่ตั้ง (Home) เพื่อทำการชาร์ท มีพื้นที่ว่างด้านข้างประมาณ 50 เซนตืเมตร ที่ว่างด้านหน้าแท่นชาร์ทประมาณ 150 เซนติเมตร เพื่อให้ตัวหุ่นยนต์สามารถวิ่งกลับมายังแท่นชาร์ทได้สะดวก เมื่อตัวหุ่นจะทำงานครั้งต่อไปต้องถอยออกจากแท่นมาประมาณ 50 เซนติเมตร ก่อนจะกลับตัวออกไปทำความสะอาดต่อ
หลังจากการจัดการแท่นชาร์ทเรียบร้อยก็เอาน้องไปชาร์ทไฟให้พร้อมใช้งาน ระหว่างนี้ก็ไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Mi Home มาติดตั้งไว้ในโทรศัพท์ของเราให้พร้อม มีทั้งบน App Store และ Play Store แล้วแต่โทรศัพท์ของท่านว่าใช้ระบบปฎิบัติการใด ผู้เขียนใช้ Android ครับ ใช้ผลิตภัณฑ์จาก Xiaomi หลายตัวจนโดนแซวว่า "บ้านหมี่งอก" คือมี Xiaomi เพิ่มมาเรื่อยๆ ในบ้าน
จากนั้นก็ทำการเชื่อมต่อตัวหุ่นยนต์เข้ากับแอพพลิเคชั่น ซึ่งทำได้ไม่ยากแล้วนะครับไม่ต้องกังวลว่าจะเป็น Chinese Version หรือ Global Version แล้ว (เพราะผมมีทั้ง 2 ตัว 2 แบบก็เชื่อมได้ง่ายดาย) ดูตามคลิปข้างล่างนี้นะครับน้องเขาอธิบายไว้ดีแล้ว
หลังจากที่เราเชื่อมต่อหุ่นยนต์กับแอพพลิเคชั่นได้สำเร็จแล้ว ก็ตรวจสอบเครื่องว่า มีการชาร์ทแบตเตอรีเต็มพร้อมทำงานหรือยัง? ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มการทำความสะอาดและทำแผนที่ห้องต่างๆ กัน แต่... เดี๋ยวก่อน ให้เราเคลียร์พื้นที่ภายในบ้านของเราก่อน โดย
จากนั้นก็สั่งให้หุ่นยนต์ทำงานได้ทันที ทั้งจากแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน หรือปุ่มกดบนหลังเครื่อง (หุ่นยนต์จะต้องวางที่แท่นชาร์ทเสมอ) เพื่อให้เขาทำงานได้ถูกต้องเริ่มเดินจาก Home ไปยังห้องต่างๆ และเมื่อทำงานเสร็จก็จะกลับมาที่ Home (แท่นชาร์ทได้ถูกต้องเสมอ) หากบ้านท่านกว้างมีหลายห้อง สำรวจไปแล้วยังไม่ทั่วทุกห้องแต่แบตเตอรี่เหลือน้อย ก็ไม่ต้องห่วงน้องเขาเพราะถ้าแบตเหลือน้อยกว่า 15% เขาจะกลับมาชาร์ทเอง เมื่อมีแบตเตอรี่เกิน 80% เขาก็จะไปทำงานต่อเนื่องเอง
ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีพวกนี้ จะมีความเฉลียวฉลาดทำงานได้ถูกต้องเสมอ ต้องมีการอัพเดท Firmware เครื่องตามที่ระบบตรวจพบและแจ้งให้เราทราบ อย่างหุ่นยนต์ตัวนี้ได้ผ่านการอัพเดทมา 2 ครั้งแล้ว จากวันแรกที่ได้มาใช้งานและในอีกสัปดาห์ต่อมา เราก็แค่กดปุ่ม OK เครื่องจะบอกเราว่า ให้หุ่นยนต์กลับไปที่ Home เพื่อให้ชาร์ทไฟมีพลังงานไม่น้อยกว่า 15% ในการอัพเดท ซึ่งใช้เวลาจริงๆ ประมาณ 2-3 นาทีเท่านั้นเอง
การใช้งานหุ่นยนต์ดูดฝุ่น/ถูพื้นในคลิปวีดิโอข้างบน ท่านผู้อ่านก็คงจะเห็นความสามารถแล้ว ในที่นี้จะเอาข้อสรุปจากประสบการณในการใช้งานมาเล่าสู่กันฟังครับ ว่าควรจะ... ดูแลน้องเขาอย่างไรบ้าง เพื่อให้ทำงานได้ดี สะอาดตามที่ต้องการ
วันแรกของการสำรวจและทำแผ่นที่ ก็ได้ยินเสียงร้องของน้องออกมา (ฟังไม่ออกเลยในตอนแรกเพราะน้องพูดภาษาจีน ต้องมาเปลี่ยนภาษาให้น้องพูดเป็นอังกฤษ ในแอพพลิเคชั่น แต่ไม่มีภาษาไทยนะครับ) ว่าถังเก็บฝุ่นเต็ม ก็เลยถอดถังเก็บฝุ่นเอาไปเทออก เลยพลิกตัวหุ่นมาดูแปรงข้างล่างก็อย่างที่เห็นแหละ เส้นผมเข้าไปพันจนเต็มเลย ต้องใช้แปรงกับตะขอมีดที่เขาแถมมาเลาะออก แต่ไม่ทันใจสู้ใช้ใบคัทเตอร์คมๆ ตัดแล้วดึงออกมาดีกว่าครับ
ส่วนถังเก็บฝุ่นนี่เป็นภาพในการถอดออกมาเทครั้งที่ 2 นะครับ ครั้งแรกแน่นเอี๊ยดกว่านี้ ที่เรากวาดๆ ถูๆ ด้วยไม้กวาดและม็อบธรรมดาว่าสะอาดแล้ว พอให้น้องเขามุดใต้เตียง โซฟาก็ผลดังที่เห็น โดยเฉพาะพรมปูพื้นหนาๆ นี่จัดว่าเด็ดทีเดียวสะสมฝุ่นไว้เยอะ หลังน้องทำงานไปก็สะอาดใช้ได้ ทำประจำก็สะดวกสะอาดขึ้นเยอะเลย
ภาพนี้ หลังจากการที่ให้น้องถูพื้นด้วยผ้าใยไมโครไฟเบอร์และฉีดน้ำในพื้นกระเบื้อง ปรากฏว่ามีคราบเหนียวติดในช่องแปรงปัดฝุ่นเข้าถัง และตัวครอบแปรงต้องถอดออกมาเช็ดทำความสะอาดอีกรอบครับ ด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ (อย่าใช้น้ำยาทำความสะอาด หรือสารเคมีนะครับ ผิวน้องจะเสียหาย)
ในการสั่งให้ทำงานในครั้งต่อไป เราสามารถกำหนดโซนหรือพื้นที่เฉพาะได้ ด้วยการแตะที่รูปสี่เหลี่ยมมีเครื่องหมายบวก (ในวงกลมสีแดง) จะปรากฏรูปกรอบสี่เหลี่ยมที่ให้เราลากไปคลุมพื้นที่ที่ต้องการทำความสะอาดได้ โดยการย่อขยายได้ตามต้องการ แลัวสั่ง Start cleanup ถ้าเราไม่ระบุพื้นที่ ตัวหุ่นยนต์จะวิ่งทำความสะอาดให้ตามแผนที่ทั้งหมด เมื่อทำงานเสร็จก็จะกลับไปที่แท่นชาร์ทเอง เมื่อชาร์ทจนเต็ม เครื่องจะเข้าสู่โหมดหลับ (Sleep) รอการเรียกใช้งานครั้งต่อไป
สำหรับการถูพื้น ก็เติมน้ำเปล่าสะอาดลงในถัง (อย่าเติมน้ำยาทำความสะอาดใดๆ ลงไปร่วมด้วยนะครับ เป็นอันตรายต่อมอเตอร์ ท่อน้ำ/หัวฉีดอาจตันได้) ติดผ้าไมโครไฟเบอร์แล้วนำไปติดเข้าใต้เครื่อง ควรฉีดพ่นน้ำลงบนผ้าใยไมโครไฟเบอร์ให้ชุ่มเล็กน้อย ตรงนี้จะใส่น้ำยาทำความสะอาดก็ได้ กำหนดพื้นที่ให้ทำงาน (เฉพาะพื้นกระเบื้อง หรือพื้นไม้) เมื่อทำงานเสร็จถอดถังน้ำออกจากเครื่องด้วยนะครับ อย่าใส่ติดเครื่องไว้ เพราะหากบ้านเป็นพื้นไม้ความชื้นจากผ้าอาจทำให้ไม้พองได้รับความเสียหายได้
หมายเหตุ ไม่ควรใส่ถังน้ำและผ้าถูพื้นติดเครื่องไว้ตลอดเวลา เพราะอาจทำให้บริเวณที่เป็นพรมเสียหายได้รับความชื้น และถ้าน้ำหมดจากถังจะทำให้มอเตอร์ในถังน้ำเสียหายด้วย เพราะเครื่องคิดว่า เราต้องการถูพื้นจึงสั่งฉีดน้ำเป็นระยะๆ ถ้าน้ำหมดไม่มีในถัง มอเตอร์จะร้อนจัดจนขัดข้องได้
สรุปการใช้งาน เจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่น/ถูพื้น Xiaomi รุ่น Mi Robot Vacuum-Mop 1C ใช้งานง่าย ประทับใจมาก คุ้มกับราคาที่จ่ายไปครับ ตั้งแต่ได้มาก็ตั้งเวลาให้เขาทำงานทุกวันตอน 8.00 น. เสียงก็ไม่ดังมากจนรำคาญ ยังนั่งดูโทรทัศน์พร้อมกับพูดคุยกันได้ตามปกติครับ เสียงของน้องมีหลายระดับตามความแรงของการดูดฝุ่นที่เรากำหนดในแอพพลิเคชั่น (เบา-กลาง-แรง ค่าปกติคือปานกลาง) การฉีดน้ำก็เหมือนกันให้ฉีดมากน้อยทำได้ผ่านแอพเช่นกัน
รีวิวนี้ไม่มีสปอนเซอร์ ซื้อมาใช้เองล้วนๆ ครับ
|
|
สนับสนุนให้ Easyhome อยู่รับใช้ท่านตลอดไป ด้วยการคลิกแบนเนอร์ไปเยี่ยมผู้สนับสนุนของเราด้วยครับ
|
ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่เว็บไซต์ Easyhome in Thailand เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)